BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

6 เคล็ดลับ "แก้อาการนอนไม่หลับ"


ถ้าคุณมีอาการนอนไม่หลับแบบนี้มาดู "เคล็ดลับแก้อาการนอนไม่หลับ" ที่เรานำมาฝากกันดีกว่า บอกเลยว่าอาการนอนไม่หลับเนี่ย ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็จริง แต่อาการนี้ทำหลายคนรู้สึกเครียดกับ จนเสียสุขภาพจิตมาเยอะแล้ว ซึ่งอาการนอนไม่หลับก็มีอยู่หลายรูปแบบ ทั้ง หลับยากใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับ หลับแล้วตื่นเร็ว หรือบางทีอดนอน อยากนอนต่อแต่ก็นอนไม่หลับ  ซึ่งถ้าใครเป็นแบบนี้ประมาณ 1-2 วัน อาจมีสาเหตุมาจากความเครียดก็ได้ แต่ถ้ากินระยะเวลานานกว่านั้นก็อาจเรียกว่าเป็น "โรคนอนไม่หลับ (Insomnia)" ได้เลย ซึ่งโรคนอนไม่หลับ ก็จะแบ่งเป็นหลายระยะตั้งแต่ชั่วคราวไปจนถึงขั้นเรื้อรังได้  วันนี้เราเลยนำเคล็ดลับที่ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับมาฝากกัน


1. งดเครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
ใครที่ติดเครื่องดื่มคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม ควรงดดื่มก่อนเวลานอนประมาณ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะคาเฟอีนมีส่วนในการกระตุ้นระบบประสาท ซึ่งคาเฟอีนนั้นจะตกค้างในร่างกายอยู่หลายชั่วโมง และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าร่างกายจะขับออกมา หากเราดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงเวลาใกล้เข้านอน บอกเลยว่าตาค้างแน่ ๆ ดังนั้นถ้าอยากหลับสบาย ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงไว้เลย

ทั้งนี้ยังต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะ คนส่วนใหญ่อาจคิดว่า การดื่มแอลกอฮอล์ช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น แต่ความจริงแล้วแอลกอฮอล์ทำให้หลับง่ายขึ้นจริง แต่หลังจากนั้นจะทำให้มีปัญหาหลับ ๆ ตื่น ๆ  กลางดึก ที่สำคัญยังส่งผลให้อ่อนเพลีย และเกิดอาการง่วงตอนกลางวันอีกด้วย 

2. ลดความเครียด
เชื่อหรือไม่ว่าสาเหตุของอาการนอนไม่หลับ ส่วนใหญ่มาจากความเครียด โดยเฉพาะคนวัยทำงานขึ้นไป ที่ต้องรับมือกับปัญหาเรื่องงาน ครอบครัว และชีวิตที่วุ่นวาย ทำให้หลายคนเกิดอาการนอนไม่หลับในเวลากลางคืน และยังส่งผลให้เกิดความเครียดระหว่างวันด้วย  แถมยังเคยมีงานวิจัยพบว่า 44% ของชาวออสเตรเลีย เกิดความทุกข์ทรมานจากการนอนไม่หลับ โดยมีสาเหตุมาจากความเครียด

ดังนั้นใครที่เกิดความเครียดบ่อย ๆ ควรหากิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง เป็นต้น หรืออีกวิธีที่ดีคือการลุกมาออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้เช่นกัน เนื่องจากร่างกายจะหลั่งสารสื่อประสาทออกมา จึงช่วยลดความตึงเครียดของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้เรารู้สึกมีสมาธิ สมองปลอดโปร่ง ช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น 

3. ไม่กินอาหารมื้อหนักก่อนนอน
เพราะปกติแล้วร่างกายของคนเราจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ในการย่อยอาหาร ใครที่จัดหนักจัดเต็มในมื้อเย็น หรือมื้อดึกก่อนนอน จะทำให้คุณหลับยากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้ากินอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์  ร่างกายก็จะยิ่งใช้เวลาย่อยนานขึ้น  หรือถ้าใครที่กินแล้วนอนทันที ก็จะเป็นการรบกวนระบบย่อย รู้สึกไม่สบายท้อง ทำให้นอนหลับยาก และอาจเกิดอาการกรดไหลย้อนได้อีกด้วย 

4. ปรับเวลานอน ให้เป็นเวลายิ่งขึ้น
การนอนให้เป็นเวลาสำคัญมาก ๆ เพราะเป็นการสร้างวินัยให้กับสมอง ทำให้เมื่อถึงเวลานอน ร่างกายก็จะง่วงทันที และจะนอนเมื่อรู้สึกง่วงเท่านั้น ซึ่งเราควรจะปรับเวลานอนให้เข้าที่ ด้วยการเข้านอนให้เร็วขึ้น ในเวลาเดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว และชินกับเวลานอน หากทำอย่างนี้เป็นประจำจนร่างกายรู้เวลา ไม่เพียงแต่ส่งผลให้คุณหลับง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ร่างกายก็จะตื่นเป็นเวลาตามไปด้วย นอนเร็วตื่นเช้า ช่วยให้คุณมีเวลาทำอะไรได้มากขึ้นอีกเยอะเลยนะ 

5. สร้างสภาพแวดล้อมให้น่านอน
เรื่องบรรยากาศใครว่าไม่สำคัญ เพราะสภาพแวดล้อมในห้องนี่แหละ ที่มีส่วนชวนพาให้หลับได้ดีทีเดียว เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการจัดห้องให้สะอาด อย่าวางของรกเกะกะใกล้ที่นอน และเมื่อใกล้เวลานอนควรปิดไฟ หรือหรี่แสงไฟให้เหลือน้อยที่สุด อากาศภายในห้องควรเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป ที่สำคัญอย่าลืมปิดอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อยด้วยนะ เพราะมีงานวิจัยระบุว่าแสงจากอุปกรณ์เหล่านี้ จะไปกระตุ้นฮอร์โมนในการนอน ทำให้ร่างกายของเราตื่นตัว ดังนั้นจึงควรปิดไฟและเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ก่อนนอนสักประมาณ 1 ชั่วโมง จะได้สร้างบรรยากาศสงบ ๆ ชวนให้หลับง่ายยิ่งขึ้น 

6. กินอาหารที่ช่วยให้หลับสบาย
อาหารบางชนิดสามารถส่งผลต่อการนอนหลับได้จริง ๆ อย่างเช่นการดื่มนมอุ่น ๆ นอกจากจะไม่หนักท้องแล้ว ในนมยังมีแคลเซียมสูง จึงช่วยผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการนอนหลับ จึงช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น หรือใครที่แพ้นมอาจจะเลือกกินกล้วยแทน ได้นะ เพราะกล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยธาตุแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยคลายกล้ามเนื้อ แถมยังมีสารทริปโตเฟนที่ช่วยลดความเครียด และบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ ใครนอนหลับยากก็ลองเลือกกินอาหารเหล่านี้กันดู


ใครมีอาการนอนไม่หลับบ่อย ๆ แบบนี้ อย่าลืมนำเคล็ดลับดี ๆ ที่เรานำมาฝากไปลองปรับใช้ตามไลฟ์สไตล์กันดูนะ บอกเลยว่าการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ และไม่ควรละเลยปัญหาเหล่านี้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นปัญหานอนไม่หลับแบบเรื้อรังล่ะก็ ไม่ดีต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายแน่นอน อย่างไรก็ตามอย่าลืมสำรวจตนเอง และหาวิธีที่เหมาะสม จะได้เพิ่มประสิทธิภาพให้การนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น!



ที่มา : 

« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น