10. หลุมอุกกาบาตแบร์ริงเจอร์ (Barringer Crater) หลุมอุกกาบาตแบร์ริงเจอร์ ตั้งอยู่ที่รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา อุกกาบาตหนัก 1,000 ตัน โหม่งโลกด้วยความเร็วกว่า 40,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อให้เกิดหลุมลึกประมาณ 174 เมตร หลุมนี้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพราะยังไม่ถูกสภาพแวดล้อมโดยรอบกัดกร่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.25 กิโลเมตร 9. หลุมทะเลสาบโบซัมทวี (Lake Bosumtwi Crater) ทะเลสาบโบซัมทวี อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศกานา นี่อาจจะดูคล้ายกับทะเลสาป แต่ความจริงแล้วนักดาราศาสตร์คาดกันว่าเป็นหลุมที่เกิดจากการพุ่งชนของดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อย ประมาณ 1.3 ล้านปีก่อน แต่ปัจจุบันหลุมอุกกาบาตได้กลายเป็นแอ่งน้ำทะเลสาบ และทะเลสาบนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10.5 กิโลเมตร 8. หลุมอุกกาบาตออร์รองกา (Aorounga Impact Crater, Chad) หลุมอุกกาบาตออร์รองกา อยู่บริเวณทะเลทรายซาฮาราทางตอนเหนือของสาธารณรัฐแชดในทวีปแอฟริกา มีลักษณะเป็นแอ่งวงแหวน ตรงกลางเป็นหลุมและเป็นแนวสันของหินและทราย หลุมนี้คาดว่าอายุไม่เกิน 350 ล้านปี และเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17 กิโลเมตร 7. หลุมอุกกาบาตโกชิส บลัฟฟ์ (Gosses Bluff Crater) หลุมอุกกาบาตโกชิส บลัฟฟ์ ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย ถ้าดูจากรูปภาพแล้วทุกคนจะเห็นได้ว่าเป็นหลุมอุกกาบาตที่มีโครงสร้างซับซ้อน ซึ่งอุกกาบาตลูกนี้พุ่งชนโลกเมื่อ 142 ล้านปีก่อน แรงระเบิดของมันมีอาณุภาพทัดเทียมระเบิด TNT 22,000 เมกกะตันเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลทำให้หลุมนี้ลึก 5 กิโลเมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 24 กิโลเมตร 6. หลุมทะเลสาบเมสแทสทีน (Mistastin Lake)
หลุมทะเลสาบเมสแทสทีนนี้ ตั้งอยู่ที่ลาบราดอร์ ประเทศแคนาดา นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหลุมอุกาบาตที่กลายเป็นทะเลสาป คาดกันว่าหลุมนี้เกิดจากการพุ่งเข้าชนโลกเมื่อ 38 ล้านปีด้วยลูกอุกกาบาตที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 28 กิโลเมตร ซึ่งหลุมนี้ในปัจจุบันนั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 27 กิโลเมตร
5. หลุมทะเลสาบเคลียร์วอเทอร์ (Clearwater Lakes)
หลุมทะเลสาบเคลียร์วอเทอร์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตควีเบก ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาประมาณ 290 ล้านปีมาแล้ว จากภาพจะเห็นว่าทะเลสาบมีลักษณะเป็นวงกลมสองวงคู่กัน ซึ่งเกิดจากอุกกาบาตที่พุ่งชนพร้อมกันสองลูก จากผลกระทบของคู่ดาวหางที่ตกลงมา ผลก็คือ ดาวหางลูกใหญ่ทำให้เกิดหลุมกว้าง 32 กิโลเมตร และลูกเล็กเกิดหลุมขนาด 22 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากความงดงามของท้องทะเลโดยรอบนั่นเอง
4. หลุมอุกาบาตคารากูล (Kara-Kul)
หลุมอุกกาบาตคารากูล ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศทาจิกิสถาน ในเทือกเขาเพเมอร์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,900 เมตร ซึ่งเกิดจากการพุ่งชนของอุกกาบาตเมื่อ 25 ล้านปีก่อน จากการพุ่งชนดังกล่าว ทำให้หลุมอุกกาบาตนี้ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 52 กิโลเมตร เลยทีเดียว
3. หลุมอุกกาบาตแมนิคูอาแกน (Manicouagan Crater, Canada)
หลุมอุกกาบาตแมนิคูอาแกน เป็นหลุมเก่าแก่ประมาณ 212 ล้านปีก่อน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลรัฐควีเบก ประเทศแคนาดา เกิดจากการพุ่งชนของดาวหางขนาดประมาณ 5 กิโลเมตร โดยคาดว่าเป็นดาวหางที่มีความหนาแน่นสูงมาก และผลจากการพุ่งชนนี้ทำให้เกิดหลุมที่กว้างมากถึง 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว จากความใหญ่ที่ว่านี้ หลุมอุกกาบาตแมนิคูอาแกน จึงนับเป็น 1 ใน 5 หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสภาพสมบูรณ์มากอีกด้วย
2. หลุมอุกกาบาตซิกซูลัป (chicxulub crater)
หลุมอุกกาบาตซิกซูลัป ตั้งอยู่ที่อ่าวแม็กซิโก เป็นหลุมที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมาก เพราะอุกกาบาตที่พุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน นี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างถึง 170-180 กิโลเมตร และการพุ่งชนอย่างรุนแรงนี้ ส่งผลกระทบทำให้เกิดสึนามิ แผ่นดินไหว เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งโลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันมหาศาลจนสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนนำไปสู่การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ในที่สุด ปัจจุบันหลุมอุกกาบาตซิกซูลัปมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 200 กิโลเมตร
1. หลุมอุกกาบาต วเรเดฟอร์ทโดม (Vredefort Dome)
หลุมอุกกาบาต วเรเดฟอร์ทโดมนับเป็นอุกกาบาตโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของหลุมประมาณ 250-300 กิโลเมตร!! ตั้งอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมืองวเรเดฟอร์ต และชื่อเมืองนั้นคือที่มาของชื่อหลุมอุกกาบาตแห่งนี้นั่นเอง และปัจจุบันหลุมอุกกาบาต วเรเดฟอร์ทได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโกแล้ว
▶ ข้อมูลจาก :
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น